1. จดบันทึก รายการอาหารต่างๆ ที่เราได้รับประทานเอาไว้ วิธีนี้ เป็นวิธีที่หลายๆ คนขี้เกียจจะทำ และมองข้ามไป ซึ่งในข้อนี้ ถือว่าสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ คุณจะ ลดน้ำหนัก ลงได้อย่างไร ถ้าคุณไม่มีการเปรียบเทียบ ประวัติการทานอาหารของคุณที่ผ่านมา และจะคำนวนได้อย่างไร ว่าคุณทานอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินไปหรือเปล่า ทานอะไรผิดพลาด หรือปริมาณมากไปหรือเปล่า เพราะการที่คุณจะ ลดความอ้วน นั้น ไม่ได้ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1-2 สัปดาห์ แต่กินระยะเวลาเป็นเดือน คุณจะยังจำได้อยู่มั้ยครับ ว่าเมื่อวันอังคารของสัปดาห์ที่แล้ว ในตอนกลางวัน คุณทานอาหารอะไร ทานไปปริมาณแค่ไหน
ในขั้นตอนนี้ หลายคนอาจจะบ่นว่า ยุ่งยาก เสียเวลา และขี้เกียจที่จะต้องมานั่งจำ และจดลงบันทึกเอาไว้ สมัยนี้ไม่ยากเลยครับ ผมเชื่อว่า เกือบทุกคน คงมี มือถือ ที่เป็น สมาร์ทโฟน กันแล้ว ก็ใช้เจ้าสมาร์ทโฟน นั่นแหละครับ เขียนบันทึกลงไปเลย ซึ่งจากสถิติของการ ลดน้ำหนัก ในต่างประเทศได้ทำการวิจัย แล้วพบว่า ผู้ที่ทำการจดบันทึกรายการอาหาร รวมทั้งรายละเอียด เกี่ยวกับการออกกำลังกายเอาไว้ เป็นรูปแบบของบันทึก ช่วยให้เค้า ลดน้ำหนัก ลงได้มากกว่า ผู้ที่ไม่จดบันทึกอะไรเลย เอาแต่ตั้งใจ ลดน้ำหนัก อย่างเดียว แต่ไม่จดบันทึกพฤติกรรมการทานอาหารของตัวเอง เอาไว้เลย มากถึง 2.75 กิโลกรัม เลยทีเดียว
ในการจดบันทึกนั้น ต้องจดลงอย่างละเอียด และถูกต้อง อย่าโกงว่างั้น ไม่ใช่ว่า ในมื้ออาหารนั้น ได้ทานน้ำหวาน นมเย็นปั่นลงไป แต่ไม่ได้จดบันทึก บันทึกแต่อาหารจานหลักว่าทานอะไรบ้าง แบบนี้ไม่ถูกต้องครับ ต้องจดให้ละเอียด และถูกต้อง รวมทั้งต้องสมบูรณ์อีกด้วย นอกจากนี้ ยังต้องทำการบันทึกรายการอาหารที่ทานเข้าไป อย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาของการ ลดความอ้วน หรือ หลังจากลดแล้ว ก็ยังจดบันทึกต่อไป อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ
2. ทานอาหารในแต่ละมื้อ อย่างเพียงพอ นั่นคือ ทานในปริมาณที่ไม่มาก แต่ทานให้หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่ม ใน 5 หมู่อาหารที่เรารู้จักกันดี พยามทานให้ครอบคลุมที่สุด ปริมาณแค่กำลังพอดี อะไรที่มันมากเกินไป ย่อมไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน
3. อย่าข้ามมื้ออาหารเป็นอันขาด พูดง่ายๆ ก็คือ ทานให้ครบ 3 มื้อต่อวัน อย่าอด หลายคนคิดว่า การอดอาหาร ปล่อยให้ร่างกายหิว ร่างกายจะไปดึงไขมันที่สะสมเอาไว้ ออกมาเป็นพลังงาน อันนั้นถูกต้องครับ แต่ไม่ใช่ไขมันเพียงอย่างเดียว ที่ถูกดึงออกไป เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ก็ถูกดึงออกไปเปลี่ยนเป็นพลังงานด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่ดีเลยนะครับ ทำให้ร่างกายของคุณอ่อนแรง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคขึ้นได้
นอกจากนี้ คุณรู้หรือไม่ว่า การปล่อยให้ร่างกายของคุณหิวนั้น ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะเมื่อคุณหิว ร่างกายของคุณจะทำการรักษาแคลอรี่ หรือพลังงาน เอาไว้ให้มากที่สุด คือเซฟเก็บเอาไว้ พยามใช้ให้น้อยที่สุด ซึ่งก็ส่งผลไปสู่ระบบการ เผาผลาญพลังงาน (Metabolism) ด้วย ให้เผาผลาญพลังงานให้น้อยลงที่สุด เมื่อคุณหิว แต่ร่างกายดันเผาผลาญพลังงานน้อยลง อ้าว แล้วมันจะ ลดไขมัน ลงได้ไง ถูกต้องครับ มันก็ลดไม่ได้ไงครับ ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ คุณต้องทานอาหารเมื่อคุณหิว โดยทานให้ได้ประมาณ 150 แคลอรี่ เพื่อทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงาน ในร่างกายของคุณ ยังคงทำงานต่อไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และทำให้คุณรู้สึกหายหิว อาหารที่มีค่าพลังงาน 150 แคลอรี่ ก็ได้แก่อาหารว่างต่างๆ พวก snack จำพวก ถั่ว หรือคุ้กกี้สัก 2 ชิ้น หรือ ขนมปังสัก 2 แผ่น อะไรประมาณนี้
ดังนั้นจำไว้ว่า ถ้ามีใครมาแนะนำให้คุณ อดอาหาร หรือลดจำนวนมื้อที่ทานอาหาร ในแต่ละวันลง เพื่อลดความอ้วนแล้วล่ะก็ แปลว่า เค้าไม่รู้จริง และกำลังแนะนำให้คุณ ทำร้ายร่างกายของคุณเองอยู่
4. เน้นทานอาหารที่บ้าน การทานอาหารที่บ้าน ด้วยการเลือกซื้อวัตถุดิบ มาปรุงเอง ย่อมส่งผลในการ ลดความอ้วนได้ดีกว่า การออกไปทานอาหารที่ร้านอาหาร หรือฟาสฟู้ดตามห้างอย่างแน่นอน เราปรุงเอง ทำเอง ย่อมรู้ว่าเราได้ใส่อะไรลงไป และคัดเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุด เพื่อการลดน้ำหนักอยู่แล้ว แต่ที่ร้านอาหาร หรือฟาสฟู้ด คุณจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าตั้งใจทำแค่ไหน วัตถุดิบดี และสดแค่ไหน ใส่อะไรลงไปบ้าง
การทำอาหารทานเองที่บ้าน นอกจากจะช่วยประหยัดแล้ว คุณยังได้ทานแต่วัตถุดิบที่สะอาด และดีอีกด้วย หากจำเป็นต้องออกไปทานอาหารนอกบ้าน เช่นงานเลี้ยง สังสรรค์ ก็มีอยู่สองทางเลือก หากเป็นการร่วมงานแบบบุฟเฟ่ เชิญไปดูคำแนะนำที่บทความนี้เลยครับ อยู่ที่ไหนก็ Diet ได้ ส่วนหากเป็นการไปทานอาหาร ในร้านอาหารกับเพื่อน คุณควรจะใช้วิธีการทานแบบเผื่อเหลือแพ็คกลับบ้าน จะเป็นการควบคุมปริมาณอาหารที่คุณจะทานได้ดีที่สุด ทานแค่ครึ่งนึง อีกครึ่งหนึ่งแพ็คกลับไปทานที่บ้าน ในมื้อถัดไป หรือในมื้อเช้า ก็ว่ากันไป เพราะส่วนใหญ่แล้ว คนเราเมื่อเข้าไปทานอาหาร ในร้านอาหารแล้ว มักจะควบคุมปริมาณอาหาร ที่ทานเข้าไปได้ยาก เพราะมันมีหลายอย่าง และอร่อยๆ ทั้งนั้น ทานนี่นิด ทานนั่นหน่อย หยิบๆ ตักๆ ดูเหมือนไม่เยอะ แต่จำนวนในการตักนั้นมีมาก คุณจะไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองทานไปเยอะแค่ไหน เพราะตักทีละนิด เหมือนชิมๆ แต่ชิมสัก 5 อย่าง 2 รอบ ก็ปาเข้าไปกี่แคลอรี่แล้ว
4 วิธีลดความอ้วน ที่ผมนำมาฝากกันในคราวนี้ เป็น 4 วิธีหลักๆ ก่อนที่คุณจะเจาะลึก ลงไปถึงรายละเอียดของการ รับประทานอาหาร เพื่อลดความอ้วน ในส่วนของรายละเอียดในเรื่องนั้น ผมจะนำมาฝากกันอย่างละเอียดแน่นอน ทั้งในเรื่องของเมนูอาหาร และการทำอาหารลดความอ้วน ทานเองภายในบ้าน ซึ่งไม่ยากเลย แล้วผมจะนำมาเสนอในบทความต่อๆ ไปครับ
