1. ช่วยส่งเสริม ระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ให้แข็งแรงขึ้น ก็ด้วยการที่มีวิตามินซี อยู่ในระดับที่สูงใช้ได้ ช่วยทำให้การทำงาน ของเนื้อเยื่อ ภายในร่างกาย มีประสิทธิภาพดีขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย ต่อต้าน และต่อสู้ กับเชื้อโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย เพราะได้รับ วิตามินซี เข้าไปนั่นเอง แต่สำหรับผู้ที่เป็น โรคโลหิตจาง ไม่ควรทานมากเกินไปนะครับ จะกลายเป็นโทษได้
2. ช่วยให้เลือดลมในร่างกาย ไหลเวียนดีขึ้น เพราะใน สับปะรด มีสารประเภท แอนตี้ออกซิแดนซ์ ( Antioxidant ) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า สารต่อต้าน อนุมูลอิสระ คือสารที่ช่วยยับยั้ง หรือชะลอการเกิดปฏิกิริยา ออกซิเดชั่น ( oxidation ) ที่จะไปทำลายโครงสร้าง ของเซลล์ในร่างกายของเรา ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุ ของการเกิด โรคมะเร็ง โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ และอัมพาต ได้ด้วย ซึ่งสาร แอนตี้ออกซิแดนซ์ ( Antioxidant ) นี้ ยังมีความสำคัญต่อ ระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย มากทีเดียวด้วย
3. ช่วยในเรื่องของการย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย เพราะใน สับปะรด นั้น มีกากใยอาหารมาก มีส่วนสำคัญในเรื่องของ การย่อยอาหาร ทำให้ย่อยอาหารดีขึ้น รวมทั้ง กากใยอาหาร ยังมีส่วนสำคัญ ในการช่วยลด ไขมันในเลือด หรือ คลอเรสเตอรอล อีกด้วย และแน่นอนว่า เมื่อมีกากใยเยอะ ย่อมต้องทำให้ ระบบขับถ่าย ดีขึ้นอีกด้วยเช่นกัน สำหรับคนที่ท้องผูก แนะนำให้ลองดูเลยครับ ทานในปริมาณ ที่เยอะหน่อย จะเป็นการช่วยทำให้รู้สึก ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
4. ช่วยป้องกันโรคต่างๆ อันนี้ ก็แน่นอนอยู่แล้ว การทาน ผลไม้ ให้เพียงพอต่อ ความต้องการ ของร่างกายในหนึ่งวัน ย่อมช่วยให้ร่างกาย ได้รับวิตามินอื่นๆ ที่จำเป็น ( นอกจาก วิตามินซี แล้ว ) อย่างเพียงพอ ซึ่ง วิตามิน นั้น มีส่วนสำคัญมาก ในการทำงาน ของเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายเรา มีความสำคัญมากๆ และร่างกายของเรา ก็จำเป็น ต้องได้รับอย่างเพียงพอ ในแต่ละวัน ซึ่งชนิดของ วิตามิน ในสับปะรด นั้น ก็มีอีกเยอะแยะ นอกจาก วิตามินซี ด้วยนะครับ การที่ร่างกาย ได้รับ วิตามิน อย่างเพียงพอ จะช่วยป้องกัน โรคภัยไข้เจ็บ ต่างๆ รวมทั้ง โรคมะเร็ง และอัมพาต ได้นะครับ
5. ป้องกันความเสี่ยงจาก โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม อันนี้เน้นๆ ให้เลยนะครับ เพราะนอกจาก สาร แอนตี้ออกซิแดนซ์ ( Antioxidant ) แล้ว ใน สับปะรดยังมี เอนไซม์ Bromelain ที่มีความสามารถ ในการช่วยป้องกัน การเติบโตของเซลล์ ที่ผิดปกติใน ปอด ลำไส้ใหญ่ เต้านม และรังไข่ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงในการเป็น มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่
6. ช่วยยับยั้งการอักเสบได้ เพราะนอกจากจะช่วย ป้องกัน การเติบโต ของเซลล์ที่ผิดปกติ แล้ว เอนไซม์ Bromelain ยังช่วยยับยั้ง การอักเสบ ทางผิวหนังได้อีกด้วย ซึ่งชาวอเมริกาใต้ในสมัยโบราณ ได้ใช้สับปะรด เป็นยารักษาโรคผิวหนัง และรักษาบาดแผล ที่ได้ผลดีมาแล้ว ปัจจุบัน ก็ได้มีการสกัดสาร Bromelain มาทำเป็นยาอีกด้วย เพราะเจ้าสาร Bromelain ตัวนี้นั้น สามารถย่อยสลาย โปรตีน ได้ด้วย อีกทั้งคุณสมบัติของมัน ยังคล้ายกับยา แอสไพริน ซึ่งสามารถ ลดการจับตัวของเลือดได้ด้วย ในวงการแพทย์ ได้มีการสกัดสารตัวนี้ ไปใช้ในการควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้องอก หรือเนื้อร้ายพวกมะเร็ง และยังไปใช้ในการรักษาแผลผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลสมานได้เร็วขึ้น มีโอกาสเป็นแผลเป็นน้อยลง ไม่ธรรมดาเลยนะครับสำหรับสาร Bromelain ตัวนี้
7. ช่วยให้เหงือกแข็งแรง อันนี้แน่นอนครับ เพราะ วิตามินซี ในสับปะรด ช่วยป้องกัน ความเสี่ยงจากการเป็น โรคเหงือก ได้อีกทั้งยังช่วย ส่งเสริม สุขภาพช่องปาก ของเราให้มีความแข็งแรง เมื่อเหงือกแข็งแรง รากฟัน ก็ย่อมแข็งแรงด้วยเช่นกัน ป้องกัน โรคเลือดออกตามไรฟัน อาการเหงือกร่น ได้อีกด้วย
ได้รู้แบบนี้แล้ว ต่อไปเจอรถเข็นขาย ผลไม้ ขาย สับปะรด ก็อย่าลืม ซื้อมาทานกันนะครับ ทานแค่ชิ้นเดียว ต่อวันก็พอแล้วครับ ชิ้นละ 10 บาท อย่าเห็นว่า มีประโยชน์แล้วทานทีละเยอะๆ ภายในครั้งเดียว แต่ให้ทานทีละน้อย แต่ทานบ่อยๆ จะได้ประโยชน์มากกว่า และสม่ำเสมอกว่า ทานผสมกับ ผลไม้ ชนิดอื่นๆ จะทำให้ร่างกาย ได้รับวิตามิน และการดูแลจาก ผลไม้ เหล่านี้ ได้ครบถ้วนกว่านะครับ ว่าแล้ว เราก็ออกไปหาซื้อ สับปะรด มาทานกันดีกว่า
