Home » » คุมน้ำหนัก อย่างได้ผล ด้วยการแยกแยะ หิวจริง หรือ อยากกิน

คุมน้ำหนัก อย่างได้ผล ด้วยการแยกแยะ หิวจริง หรือ อยากกิน

การ ลดน้ำหนัก หรือ การ ลดความอ้วน นั้น เป็นเรื่องที่แต่ละคน สามารถทำเองได้ อันที่จริงแล้ว ไม่จำเป็น ต้องไปเข้าคอร์ส ลดความอ้วน ให้เสียเงินทองเลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม สุดท้าย มันก็อยู่ที่ตัวคุณเอง ที่ต้องฝืนใจ ควบคุมตัวเองให้ได้ เมื่อ ลดน้ำหนัก ได้แล้ว หรืออยู่ในระหว่างการ ลดน้ำหนัก อยู่นั้น สิ่งสำคัญที่สุด ที่เราต้องเข้าใจก็คือ การ คุมน้ำหนัก ด้วยการแยกแยะว่า ความรู้สึก ว่าเราอยากกิน หรือ เราหิว เพราะร่างกาย ขาดสารอาหารกันแน่

ดูๆ ไปแล้ว อาจจะเหมือนเป็น เรื่องเล็กน้อย แต่อันที่จริงแล้ว เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว มันมีความใกล้กันมาก ระหว่าง ความหิว กับ ความอยากกิน เพราะเมื่อเราหิว ก็ทำให้เรารู้สึกว่า เราอยากกิน หรือถ้าเราเห็นอาหาร ที่มีหน้าตา น่ารับประทาน เราก็จะรู้สึกว่า เราอยากกิน ทำให้เราหิวขึ้นมาได้ เช่นกัน แล้วอันไหนกันแน่ล่ะครับ ที่จะมาช่วยแยกแยะได้ว่า “เรารู้สึกหิวจริงๆ นะ” เพราะร่างกาย ขาดสารอาหาร แล้วต้องการพลังงาน หรือว่า อันที่จริงแล้ว เราแค่รู้สึกว่า “มันน่ากินอ่ะ อยากกินจัง” เท่านั้นกันแน่

คุมน้ำหนัก

วันนี้ ผมมีวิธี ที่จะมาช่วยทำให้เรา สามารถแยกแยะได้ว่า เราหิวจริงๆ หรือแค่รู้สึกว่า อยากกิน เลยทำให้หิวไปเท่านั้น วิธีนี้ ก็เป็นหนึ่งในวิธีการ ที่ถูกนำมาอบรม ในคอร์ส ลดความอ้วน ทั่วไป ที่เราต้องเสียเงิน เพื่อเข้าไปนั่งฟัง นั่นแหละครับ มาตรงนี้ ก็อ่านกันฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงินอะไร เพราะเคล็ดลับนี้ ผมจะเอามาบอกกันฟรีๆ ครับผม วิธีสังเกตที่ว่ามา ก็มีดังนี้

1. เมื่อร่างกายของเรา ขาดพลังงาน ร่างกาย ก็จะเริ่มสงสัญญาณ ให้ตัวของเรารู้ ซึ่งนั่นก็คือ ความหิว ที่ว่าร่างกายของเรา ขาดพลังงานนั้น ก็คือ เรามีน้ำตาลในเลือด อยู่ในปริมาณที่ต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่ มันจะส่งสัญญาณ ตรงเวลา หากคุณ เป็นคนที่ทานอาหารตรงเวลา สัญญาณความหิว ที่ร่างกายส่งออกมา ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้น ก่อนมื้ออาหารทุกมื้อ ซึ่งสัญญาณที่ชัดเจน และดีที่สุดก็คือ เสียงท้องร้อง นั่นเอง สัญญาณอีกอย่างก็คือ รู้สึกร้อนๆ ท้อง เพราะน้ำย่อย มันออกมาแล้วนั่นเอง อีกอาการที่เป็นไปได้ ซึ่งเป็นสัญญาณความหิว ที่ชัดเจนมาก นั่นคือ อาการวิงเวียนศรีษะ อ่อนเพลีย และหน้ามืด หรือที่เรารู้จักกันดี ในอาการของคน “เป็นลม” นั่นเอง ซึ่งเป็นสัญญาณความหิว ที่ชัดเจน ซึ่งไม่ดีเลยครับ มันแปลว่าร่างกายของคุณขาดอาหารมากๆ เลยทีเดียว

2. ฝึกแยกแยะ สัญญาณ ความหิว ให้ดี ความหิว ที่ส่งสัญญาณ มาจากภายในร่างกายของเรา ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ในข้อที่ 1 ซึ่งเราต้องฝึกแยกแยะ ให้ออก แยกแยะเป็นระดับให้ได้ โดยอาจแยกเป็น ความหิว ระดับที่ 1 คือหิวนิดๆ จนถึง ระดับที่ 5 คือหิวมาก หิวจนตาลายแล้ว และต้องแยกแยะความอิ่ม ออกเป็นระดับด้วยเช่นกัน  โดยอาจแยกเป็น ความอิ่ม ระดับที่ 1 คือ อิ่มพอดีๆ ยังรู้สึกหิวนิดๆ จนถึง ระดับที่ 5 คือ อิ่มมาก จนนั่งไม่ได้ อึดอัดสุดๆ จนแทบจะอาเจียนออกมา ในทางวิชาการแล้ว จริงๆ ต้องมีการจดบันทึกไว้ด้วย ถึงจะดี ว่าหิวระดับไหน อิ่มระดับไหน ในแต่ละมื้อ แต่ผมว่า เอาแค่เราเข้าใจตัวเราเอง รู้สึกได้ และแยกแยะได้ ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ

3. เมื่อเราสามารถ แยกแยะ ระดับความหิว ของเราได้แล้ว ในข้อที่ 2 ผมก็จะแนะนำว่า คุณควรที่จะเริ่มกิน เมื่อความหิวของคุณ อยู่ในระดับที่ 1-3 กำลังดี ซึ่งในระดับนี้ ร่างกายของเรา จะแจ้งเตือนด้วยการ ส่งเสียงร้องเบาๆ คนอื่นไม่ได้ยินหรอกครับ เราเองจะรู้ตัวเองดี เมื่อมีเสียงท้องร้องออกมา ไม่ควรที่จะปล่อยให้ตัวเอง หิวจนอยู่ในระดับที่ 4-5 ซึ่งเป็นระดับที่หิวมาก เพราะนั่น จะทำให้คุณ กินแบบไม่บันยะบันยัง หิวมาก ก็กินมาก อันนี้เป็นสัจธรรมครับ ดังนั้น ถ้าเริ่มหิวแล้วกิน ก็จะกินได้น้อย

4. เมื่อเราเริ่มกิน ในขณะที่เราหิวน้อย หรือในระดับความหิว ที่ 1-3 เราก็ควรจะกินให้อิ่ม ในระดับความอิ่มที่ 1-2 ก็พอ ไม่ควรกินให้อิ่มมาก จนถึงระดับ 4-5 หลีกเลี่ยง พวกอาหาร บุฟเฟ่ ทั้งหลาย งดเลยครับ เพราะหลายคนที่ไปกิน มักจะให้เหตุผลว่า เสียดายเงิน ต้องกินให้คุ้ม ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือหลีกเลี่ยง และไม่ไปกินเลย ไม่ว่าจะเป็น หมูกระทะ Hot Pot ชาบูชิ หรือ โออิชิ บุฟเฟ่ ร้านอาหารเหล่านี้ ควรจะหลีกให้ห่างนะครับ หากคุณ ยังไม่รู้ว่า อะไรคือสัญญาณความอิ่ม ที่ร่างกายของเราส่งออกมา ง่ายๆ เลยก็คือ อัตราการเคี้ยวอาหารของเรา จะเริ่มลดลง เราจะรู้สึกเหมือนว่า เคี้ยวจนเมื่อย แต่ที่จริงแล้ว เราไม่ได้เมื่อยครับ แต่เป็นสัญญาณ ความอิ่ม ที่ร่างกายส่งออกมา หรืออีกสัญญาณหนึ่งก็คือ อาการแน่นท้อง นั่นเอง ซึ่งอาการแน่นท้อง ก็จะเป็นความอิ่ม ระดับที่ 4 หากแน่นท้องจนจุกแล้วอึดอัด นี่ก็เป็นความอิ่ม ระดับ 5 นั่นเอง

จากการที่คุณ ได้อ่านดูบทความนี้ จนมาถึงจุดนี้แล้ว สำหรับบางคน อาจจะมองว่า ง่ายจัง นึกว่าจะมีเคล็ดลับอะไร เด็ดกว่านี้ แต่สำหรับหลายๆ คน มันยากนะครับ เพราะคนส่วนใหญ่ มักจะไม่สนใจตัวเอง ไม่ใช่เพราะพวกเค้าไม่ใส่ใจ แต่เป็นเพราะปัจจุบัน สังคมเมือง ได้เปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตไป คนเมือง ที่อยู่ในวัยทำงาน ต้องแข่งขัน ขยันทำงาน จนลืมดูแล ใส่ใจตัวเอง ทานอาหาร ไม่เคยตรงเวลา รองานเสร็จก่อน ค่อยทาน หรืออาจข้ามมื้ออาหารไปเลย อย่างเช่น มื้อเช้า เพราะมัวแต่รีบ เดี๋ยวรถจะติด ต้องฝ่าฟันปัญหา มากมายในชีวิต แล้วจะให้มีเวลา มานั่งฟังเสียงสัญญาณ ความหิว ความอิ่ม จากร่างกาย อย่างนั้นหรือ

ดังนั้น หากคุณ ได้อ่านบทความนี้ แล้วล่ะก็ ฝากเตือน คนรอบข้างของคุณด้วยว่า ควรจะหันมาใส่ใจตัวเอง ก่อนที่มัน จะหนักจนต้องเข้า โรงพยาบาลนะครับ คนอ้วน สมควรที่จะต้อง คุมน้ำหนัก หรือ ลดน้ำหนัก ส่วนคนที่ผอม ส่วนใหญ่ ก็มักจะเป็นโรค ไขมันในเลือด หรือ คลอเรสเตอรอล ดังนั้น การจะ ลดน้ำหนัก คุมน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน นั้น หนึ่งในเคล็ดลับสำคัญ ก็คือ การแยกแยะ สัญญาณ ความหิว ได้นั่นเอง ว่าร่างกายของเรา หิวจริง หรือ เราแค่รู้สึกว่าอยากกิน

Share this article :