อันที่จริงแล้ว การ ล้างพิษ นั้น มีอยู่หลายวิธีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอดอาหารทั้งวัน หรือ การรับประทานอาหาร ให้น้อยกว่า 800 แคลอรี่ ต่อวัน แต่วิธีที่ผม จะมาแนะนำนั้น ก็คือ การกินผลไม้ หรือ ดื่มน้ำผลไม้ อย่างเดียวทั้งวัน ซึ่งต้องเป็น ผลไม้ลดน้ําหนัก เท่านั้นนะครับ งดอาหารประเภทอื่นไปเลย ผลเสียนั้น ไม่มีหรอกครับ เพราะการที่เราทำแบบนี้นั้น เราจะทำเพียงแค่ 24 ชั่วโมง หรือ 1 วันเท่านั้น ไม่ทำให้คุณเป็น โรคกระเพาะ หรือ แผลในลำไส้ ปวดท้อง หรือ เกิดอาการป่วยอื่นๆ แต่อย่างใด จะมีก็แต่อาการ ปวดท้อง อยากขับถ่าย ก็เท่านั้นเอง
การทานผลไม้ล้วนๆ แทนการทานอาหารทุกมื้อ ภายใน 24 ชั่วโมงนั้น ให้ผลดีกว่า การทานน้ำผลไม้เพียวๆ อยู่พอสมควร การดื่มแต่น้ำผลไม้นั้น มันไม่มีกากใยเท่า การทานเนื้อๆ ของผลไม้ ที่จะให้ผลได้ไว และดีกับ ระบบอวัยวะภายใน มากกว่า ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุด ก็คือ ทานทั้งผลไม้ และดื่มน้ำผลไม้ ไปควบคู่กันเลย สำหรับชนิดของผลไม้นั้น ควรเป็นผลไม้ ที่ไม่หวานจัด และไม่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ได้แก่ น้อยหน่า ลิ้นจี่ ขนุน ลำไย และ ทุเรียน เพราะผลไม้เหล่านี้ จะทำให้ระบบย่อย ไม่ได้พักการทำงานอย่างเพียงพอ สับปะรด ก็ไม่เป็นที่แนะนำนะครับ
เพิ่มเติม สำหรับท่านที่สนใจ จะเลือก การล้างพิษ แนวฮาร์ดคอ คือ อดอาหารไปเลย แบบถือศีลอด ไม่กินผลไม้ หรืออะไรทั้งสิ้น ก็มีวิธีการง่ายๆ มาฝากไว้เช่นกัน คือให้เริ่มอดตั้งแต่เช้า ไปเรื่อยๆ จนถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง จากนั้น ก็ให้เลิกอดด้วยการดื่มน้ำ 2 ลิตร เต็มๆ นะครับ ครั้งเดียวเลย แต่ค่อยๆ ดื่ม เดี๋ยวจะอาเจียนออกมา โดยน้ำแต่ละลิตรนั้น ต้องใส่เกลือลงไป ลิตรละ 2 ช้อนชา แบบพูนๆ นะครับ และบีบน้ำมะนาวลงไป 2 ลูก ต่อน้ำหนึ่งลิตร เช่นกัน จากนั้น คุณจะรู้สึกปวดท้อง ต้องการขับถ่ายขึ้นมาเลย และจะถ่ายออกมาเป็นน้ำ ที่คุณได้ดื่มเข้าไปนั่นแหละ แค่นี้เอง ง่ายๆ แต่มันโหดตรงที่ ต้องอดอาหารตั้ง 1 วันเต็มๆ แน่ะ หิวแย่เลย
ดังนั้น ผมถึงเลือก ที่จะแนะนำ วิธีล้างพิษ ด้วยการทานแต่ผลไม้ เข้าไปแทนดีกว่า สำหรับวันที่คุณ ตั้งใจจะทำการ อดอาหาร ทานแต่ผลไม้ เพื่อล้างพิษ ภายในร่างกายนั้น ควรเป็นวันหยุด ที่คุณ จะอยู่บ้านทั้งวัน จะดีที่สุด คือนอกจาก จะทานแต่ผลไม้แล้ว ยังไม่ควรทำงานหนัก ควรจะพักผ่อนให้สบายๆ ทานผลไม้ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ตื่นนอนมา ไม่จำเป็นต้องเป็นมื้อ รู้สึกหิวก็ทาน และทานน้ำผลไม้ เป็นเครื่องดื่มด้วย ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ซึ่งผลไม้ที่คุณ ควรจะเลือกทานเข้าไปนั้น หรือ ผลไม้ลดน้ําหนัก ที่มีคุณสมบัติช่วย ล้างพิษ ได้นั้น ก็ได้แก่
แอปเปิ้ล : อันนี้เป็นสุดยอด ของ ผลไม้ลดน้ําหนัก ที่ช่วยกำจัดของเสีย ออกจากร่างกาย เลยนะครับ จะว่าเป็น พระเอกของงานนี้เลย ก็ว่าได้ ซึ่งใน แอปเปิ้ล นี้ จะมีสารเปกติน ที่จะช่วยนำสารพิษ ไปกำจัดทิ้ง อีกทั้งยังช่วยป้องกัน ไม่ให้โปรตีน ที่อยู่ในลำไส้ เกิดการบูดเน่า แถมยังมีเส้นใยมากมาย ซึ่งช่วยทำหน้าที่ ในการทำความสะอาดลำไส้ ได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วย ส่งเสริมการทำงานของ ตับ และระบบ ย่อยอาหาร ให้ทำงานได้ดีขึ้น เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง กับคนที่กำลังต้องการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ขาดไม่ได้เลยครับ แอปเปิ้ล เนี่ย
องุ่น : อันนี้ก็ ผู้ช่วยพระเอก ของงานนี้เลย ขาดเค้าไม่ได้ อีกเช่นกัน ต้องทานเลยครับ สำหรับองุ่นเนี่ย เพราะมีสารที่ช่วย ฟอกล้าง ผิวของอวัยวะสำคัญ ภายในระบบ ย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย ได้แก่ ตับ ลำไส้ และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไต เนื่องจากในองุ่น มีสารที่มีคุณสมบัติ ช่วยรักษาน้ำมูก ที่ออกมาจากเยื่อเมือกต่างๆ ภายในระบบ การย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย ภายในร่างกาย ให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น อีกทั้งตัวองุ่นเอง ยังให้พลังงานสูง ด้วยน้ำตาลที่ร่างกาย สามารถดูดซึม แล้วนำไปใช้ได้เลย มีเกลือแร่มากมาย ซึ่งช่วยบำรุงเลือด และซ่อมแซม เซลล์ที่สึกหรอ หรือตายไปแล้ว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มะละกอ และ มะม่วง : พี่น้อง 2 มะ นี้ เป็นผลไม้ที่มี เอนไซม์ ที่ชื่อว่า ปาเปน ซึ่งมีลักษณะ และฤทธิ์คล้ายกับน้ำย่อย เปปซิน ในกระเพราะอาหาร ของเรา ซึ่งช่วยทำให้ของเสีย ที่เป็นโปรตีนนั้น แตกตัวได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับ โปรเมลิน แต่ถ้าให้เทียบแล้ว มะม่วงจะมีสารสำคัญนี้ น้อยกว่าในมะละกอ นะครับ
แตงโม : อันนี้ก็ไม่ธรรมดา ขาดได้ที่ไหน เพราะแตงโมนั้น มีฤทธิ์ช่วยในการ ขับปัสสาวะ ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยฟอกล้าง อวัยวะ ภายในร่างกาย ได้อย่างดีเช่นกัน และที่หลายๆ คนยังไม่รู้ แตงโม นั้น สามารถใช้รักษา แผลในกระเพาะอาหาร ได้ด้วย แถมยังมีสาร ที่ช่วยลดความดันเลือด ได้อีก ดูเป็นผลไม้บ้านๆ ตามรถเข็น แต่ประโยชน์ที่มีกับร่างกายนั้น มากมายจริงๆ ครับ
ผลจากการทานแต่ ผลไม้ลดน้ําหนัก เหล่านี้ จะช่วยล้างสารพิษตกค้าง ภายในระบบการย่อยอาหารของเรา รวมถึงระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วย ลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี (แต่ไม่ใช่อดวันเดียว ลด 1 กก. นะครับ อันนั้นก็เว่อร์ไป) ลดไขมันที่สะสมในเลือด รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การอดอาหาร แล้วทานแต่ผลไม้เช่นนี้ ไม่เหมาะสมกับคนที่กำลัง ตั้งครรภ์ หรือ เด็กที่อายุ ยังไม่ถึง 18 ปี แต่เหมาะกับพวกวัยทำงาน อายุ 30 ปี ขึ้นไปมากกว่า ที่ลำไส้ และระบบย่อยอาหาร เริ่มมีปัญหากันแล้ว และคนที่มีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ หรือ เป็นเบาหวาน ควรระมัดระวัง และต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำ ของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
