ยาลดความอ้วน ช่วยได้จริงหรือไม่?

แนะนำเรื่องการ ลดความอ้วน มาหลายวิธี คราวนี้ เรามาพูดถึง ยาลดความอ้วน กันบ้างดีกว่า เรื่องที่มันน่ากลัวที่สุดเนี่ย ก็คือเดี๋ยวนี้ ยาลดความอ้วน มันสามารถหาซื้อได้ง่ายมากๆ ไปซื้อตามร้านทั่วไป ก็มีขาย คือสามารถซื้อได้เลย ไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ ก็สามารถสั่งซื้อได้ ร้านเสริมสวยยังมีขายเลย แล้วที่หนักที่สุดก็คือใน อินเตอร์เน็ต มีขายให้เกลื่อน แล้วก็เวลาขายทีนึงเนี่ย ก็ขายเป็นปริมาณเยอะๆ ความแรงของยาก็ไม่มีระบุ ผู้ซื้อมีความเสี่ยงมากๆ ที่จะซื้อ ยาลดความอ้วน ที่มีความแรงมากๆ หรืออาจจะเป็นยาปลอม ที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่ผ่าน อย. (สำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา) หรือยาที่มีความอันตรายสูง ซึ่งเป็นยาที่ต้องได้รับการอนุมัติ หรือสั่งจ่ายจากแพทย์เท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าใคร ก็สามารถสั่งซื้อได้ทาง อินเตอร์เน็ต ทันที มันแปลกมากๆ เลยที่ว่า ทำไม ยาลดความอ้วน มันถึงได้สามารถหาซื้อได้ง่ายขนาดนี้ ผู้ใช้ก็ไม่มีความเกรงกลัวต่อภัย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อกินมันเข้าไป แค่เอาใส่เข้าไปในปาก กลืนเข้าไป กินน้ำตาม แล้วมันไปเกิดอะไรขึ้นในท้องของคุณคุณ หรือในร่างกายคุณบ้าง ก็ไม่อาจรู้ได้ มันอันตรายมากๆ เห็นเค้าใช้กัน แล้วได้ผล ก็เอาบ้าง อันที่จริงแล้ว ของแบบนี้ มันต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และที่อันตรายไปกว่านั้น ยาแรงๆ เนี่ย เดี๋ยวนี้ หมอก็สั่งจ่ายให้ได้ ประมาณว่า ถ้ามีตังค์ ก็จ่ายมาแล้วเอายาแรงๆ ไปได้ ทีนี้ปัญหาก็เลยมาอยู่ที่ว่า ยิ่งยาแรงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลกับร่างกายเท่านั้น และนี่คือ อันตรายของ ยาลดความอ้วน

คราวนี้ มาดูกันดีกว่านะครับว่า ยาลดความอ้วน เนี่ย มันมีแบบไหนบ้าง เอาแบบอธิบายง่ายๆ ทำความเข้าใจกันได้ไม่ยาก

1. ยาลดความอ้วน ที่ออกฤทธิ์แบบกดประสาท ยาประเภทที่กดประสาทนี่ก็คือ เมื่อทานเข้าไปแล้ว ก็เหมือนกับว่า มันไปบอกกับร่างกายเรา หรือบอกสมองของเราว่า เราไม่หิว เวลากินยาตัวนี้เข้าไป เราก็จะรู้สึกว่า เรารู้สึกว่าไม่หิว รู้สึกว่าไม่อยากกินอะไร อาจจะรู้สึกเบื่ออาหาร ซึ่งยาประเภทนี้ ก็จะมีระดับความแรงของมัน แตกต่างกันไป ถ้าในช่วงแรก กินไปปริมาณนึง แล้วโอเค น้ำหนักลดลงไป ผอมลงไป แล้วเกิดหยุดกิน จากนั้นดันกลับมาอ้วนขึ้นอีก ครั้งต่อไป ก็ต้องกินตัวที่แรงกว่าเดิมขึ้นไปอีก ยิ่งบ่อยครั้ง ความแรงของตัวยา ก็ต้องใช้ในปริมาณที่แรงมากขึ้น แล้วความแรงตั้งแต่แบบแรก คือแรงน้อยสุด แล้วแรงขึ้นๆ มันจะไปมีผลกับร่างกายคุณอย่างไร ลองคิดดูนะครับ

2. ยาลดความอ้วน ประเภทที่ทำให้เราอิ่มเร็ว ซึ่งยาประเภทนี้นั้น ต้องกินก่อนที่จะกินอาหาร 15 นาที แต่ยาตัวนี้ ไม่ใช่กินวันละครั้งนะครับ แต่ต้องกินก่อนอาหารทุกมื้อ สมมติว่า ปริมาณอาหารที่คุณกินปกติ ครั้งละ 1 จาน หรือ 2 จานเนี่ย แต่หลังจากที่คุณกินยาประเภทนี้เข้าไป คุณอาจจะลดปริมาณการกินลงไปได้ เพราะว่าท้องคุณจะรู้สึกอิ่มไวขึ้น จากตัวยาที่คุณกินก่อนหน้านั้น 15 นาที

3. ยาลดความอ้วน ประเภทที่มี L-Carnitine อันนี้ฮิตมากๆ หาซื้อได้ง่ายมากๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยิน ในโฆษณาพวกเครื่องดื่มที่ขายอยู่ทั่วไป ที่บอกว่าผสม L-Carnitine เนี่ย ก็มีการผสมจริงครับ แต่ผสมในปริมาณที่น้อยมากๆ แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือว่า เดี๋ยวนี้เราสามารถเดินเข้าไปซื้อจาก ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือเดินเข้าไปตามร้านขายยา แล้วก็สามารถที่จะซื้อ L-Carnitine นี้มาผสมทานเองได้ มีพวก L-Carnitine ขายเป็นกระปุกๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งเจ้า L-Carnitine เนี่ย ก็ช่วยในเรื่องของการเผาผลาญพลังงาน การหยิบพวกไขมันต่างๆ ที่สะสมเอาไว้ออกมาใช้ แต่ปัญหาก็คือ พอคุณใช้ไปเยอะๆ เข้าเนี่ย พอคุณแก่ตัวลง ระบบการเผาผลาญของคุณเนี่ย ก็จะแย่ลงอย่างรวดเร็ว แล้วก็เสื่อมลงไปเร็วขึ้นมากกว่าปกติด้วย อันนี้คือผลเสียของ L-Carnitine ครับ

4. Carbo Block หรือ FAT Block เจ้าพวกนี้เนี่ย พอกินเข้าไปปุ๊บ มันจะคอยไปสกัดกั้น และลดการดูดซึม ของสารอาหารประเภท แป้ง และไขมัน ที่เราทานเข้าไป ซึ่งยาพวกนี้ เราก็ต้องทานเข้าไป ก่อนรับประทานอาหารอีกเช่นกัน แล้วหลังจากที่มันไป block และไปสกัดกั้นเรียบร้อยแล้ว มันก็ต้องมีทางออก ซึ่งทางออกของพวกแป้ง และไขมันที่ไม่ถูกดูดซึมเนี่ยก็คือ ทางปัสสาวะ และทางอุจจาระ สัมผัสได้เลยว่ามันจะมันๆ และเหนียวมาก เวลาที่เราขับถ่ายออกมา ยิ่งกินของมันๆ ของอ้วนๆ มากเท่าไหร่ ก็ต้องยิ่งกินยา ประเภทนี้ เข้าไปเสริมมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยาประเภทนี้ มีประสิทธิภาพในการบล็อค หรือสกัดกั้น ไขมัน และแป้งเพียงแค่ 60% ของปริมาณ อาหารที่กินเข้าไป เท่านั้น และประสิทธิภาพของมัน จะลดลงเรื่อยๆ จากการใช้ยาตัวนี้อย่างต่อเนื่อง

จากที่อธิบายมาทั้งหมดนี้ ผมอยากให้ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง ยาลดความอ้วน ต่างๆ เนี่ย ไม่ว่าจะเป็น ยาประเภทกดประสาท หรือยาประเภทที่ช่วยทำให้เราอิ่มเร็วขึ้น หรือ L-Carnitine ที่ช่วยให้เราเผาผลาญพลังงาน และดึงเอาไขมันที่สะสมไว้ในร่างกายมาใช้ หรือยาประเภท Carbo Block หรือ FAT Block ต่างๆ ยาพวกนี้มีหลากหลายประเภทก็จริง หลากหลายวิธี ในการทำงานของมันก็จริง เราอาจจะเปลี่ยนประเภทของยาในการกินได้ แต่สังเกตให้ดีนะครับ ว่าพฤติกรรมการกินของเราต่างหากที่ไม่เปลี่ยนไป เช่น ยาประเภทกดประสาท ที่เรากินเข้าไป แน่นอนครับว่า ว่าหลังจากกินยาเข้าไปแล้ว เราจะไม่หิว แต่พอเราหยุดปุ๊บ เราก็ต้องกลับมากินอาหารอีก กินในปริมาณเท่าเดิม และอาจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ยาประเภทที่ทำให้เราอิ่มเร็วก็เหมือนกันครับ ท้ายที่สุดพอเราหยุดกินยา เราก็กลับมากินอาหารในปริมาณเท่าเดิมอีก L-Carnitine อันนี้ยิ่งหนักกว่าประเภทอื่นเลย เพราะเราคิดว่า พอเรากินเข้าไปแล้ว มันก็จะไปเผาผลาญพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คิดว่า ปริมาณอาหาร ที่กินอยู่ในปัจจุบัน ก็สามารถกินเข้าไปเยอะหน่อยก็ยังไหว คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก นั่นยิ่งทำให้เรากินอาหารมากเข้าไปอีก หรือพวก Carbo Block หรือ FAT Block นี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย ยิ่งทำให้เรากินมากเข้าไปอีก เพราะยาช่วยได้

ประเด็นหลักเลยก็คือ ยาลดความอ้วน คุณอาจเปลี่ยนได้ เปลี่ยนชนิด หรือประเภทที่ใช้ได้ แต่ตัวคุณเองสิครับ ที่ไม่เปลี่ยน ยาลดความอ้วน ที่ดีที่สุดก็คือ การปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการกิน เพราะยาต่างๆ ที่คุณใช้มัน ก็มีขีดจำกัดของมัน ร่างกายของคุณ ก็มีขีดจำกัด ในการรับยาเหมือนกัน วันใดที่มันรับยาที่คุณทานเข้าไปไม่ได้ คุณก็จะกลับมาอ้วนอีก อาจจะอ้วนมากกว่าเก่าด้วยซ้ำ ดังนั้น การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวคุณเอง เป็นการ ลดน้ำหนัก ที่ดีที่สุด ดีกว่าการใช้ยาช่วย แน่นอนครับ